วันนี้มีอีกหนึ่งเมนูอาหารสุขกายสบายใจมาฝากแฟนๆ Fatfoodditet สำหรับช่วงกินเจ เผื่อว่าเบื่อๆข้างกล่องเซเว่น เมนูวันนี้ก็คือ ราดหน้าเห็ดเจ อร่อยอิ่มบุญไร้ไขมัน จ้าาา ...เรียกได้ว่าเป็นอาหารสุขภาพกันอีกแล้วนะจ๊ะ ช่วงกินเจนี้แหละถือเป็นช่วงสะสมแต้ม ทำคะแนน ลดความอ้วนของเราได้ดีเลยนะคะ เน้นผักผลไม้ไม่เน้นแป้ง ไม่พูดพร่ามทำเพลงกันแล้วจ๊ะ มาดูกันสิว่า ราดหน้าเห็ดเจ ของเราวันนี้ต้องเตรียมอะไรกันบ้าง
ส่วนผสม
- คะน้าก้านอวบๆ 50 กรัม
- บล็อกโคลี่ 50 กรัม
- เห็ดหอมสด 3- 4 ดอก
- ลูกชิ้นเจ 3 - 4 ลูก
- น้ำมันหอยเจ(ซอสเห็ดหอม) 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาวเจ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนช
- ซุปก้อนเห็ด 1/4 ก้อน
- น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งสาลี 1 ช้อนชา
- น้ำเปล่า 2 ทัพพี
- เส้นหมี่ขาวประมาณเส้นหมี่ของมาม่าเส้นหมี่น้ำใสใช้ 1/2 ซอง
วิธีทำราดหน้าเห็ดเจ อร่อยอิ่มบุญไร้ไขมัน
- เริ่มจากล้างคะน้า บล๊อกโคลี่ เห็ดหอม เรียกได้ว่าวัตถุดิบของเราน่ะ ขนมาล้างให้ให้สะอาดนะจ๊ะ จะได้ไม่จู๊ดๆ
- จากนั้นหั่นผักคะน้า และบล๊อกโคลี่ขนาดแล้วแต่ชอบได้เลยนะคะ ส่วนเห็ดวันนี้ขอจัดเป็นดอกๆตัดก้านออกนิดหนึ่งหรือใครชอบแบบไหนก็จัดกันไปได้เลยนะคะ
- จากนั้นมาตั้งเตาเตรียมผัดกันค่ะ ตั้งเตาให้ร้อนใส่น้ำมันลงไปพอน้ำมันร้อนได้ที่แล้วก็จัดการลูกชิ้นเจของเราลงไปผัด ใช้ไฟกลางๆผัดๆ ตามด้วยเห็ดหอมตามลงไปผัดๆคนๆ ตามด้วยผักคะน้า และบล๊อกโคลี่ที่หั่นไว้ลงไปผัดเลยจ้าาา ผัดๆคนๆ
- ปรุงรสด้วย น้ำมันหอยเจ ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ซุปก้อนเห็ด ผัดให้เข้ากัน ละลายแป้งสาลีในน้ำเปล่า 2 ทัพพี ให้เข้ากันแล้วเทลงไป จะได้น้ำราดหน้าข้นขึ้นน่าหม่ำๆ เมื่อทุกอย่างสุกแล้วเป็นอันใช้ได้ค่ะ
วันนี้เราจะทานราดหน้าโดยใช้เส้นหมี่ขาวนะคะ จะใช้การลวกเส้นแทนการผัดเส้นนะคะ ลดปริมาณน้ำมันที่ต้องใช้ไปได้อีก^^ จากนั้นราดด้วย น้ำราดหน้าที่เราผัดไว้ เป็นอันเรียบร้อยแล้วจ้าาาา พร้อมทานนน ^^
ยกเสิร์ฟได้เลยจ้าาเมนูอาหารเจ ราดหน้าเห็ดเจ อร่อยอิ่มบุญไร้ไขมันของเราเป็นอันเสร็จเรียบร้อย ทานกันได้เลยยย
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับเมนูอาหารเจวันนี้ คงถูกใจสาวๆที่ชอบทานราดหน้าบ้างนะคะ ปรุงรสได้ตามปรกติคะ แต่อย่าลืมนะคะ น้ำปลา เติมไม่ได้ ตอนนี้กินอยู่ 55555 อย่าได้เผลอเชียวนะคะ เดี๋ยวเจแตก 555 สู้ๆนะคะสาวๆเพื่อตัวเราเอง และสุขภาพที่ดีของเรา จ้าาา ลากันไปก่อนนะคะสำหรับวันนี้ ขอความสุขกายสบายใจอิ่มเอมใจ ได้บุญกันทั่วหน้าจ้าา - สาธุ-
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น